วันเสาร์ที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2554

เหตุการณ์สำคัญที่มีผลกระทบต่อโลก

ผลกระทบของการปฏิวัติประชาธิปไตยอียิปต์ต่อเศรษฐกิจโลก
เมื่อวันที่28 มกราคม พ.ศ. 2554ได้เกิดเหตุการณ์สำคัญในด้านการเมืองระหว่างประเทศ ซึ่งจะส่งผลอย่างมากมายมหาศาลต่อภูมิรัฐศาสตร์ (Geopolitics) ของโลกโดยเฉพาะอย่างยิ่งเสถียรภาพทางการเมืองและเศรษฐกิจของโลกตะวันตก เหตุการณ์ดังกล่าวคือการก่อการจลาจลหรืออาจเรียกว่าเป็นการปฏิวัติประชาชน อียิปต์ซึ่งลุกขึ้นมาต่อต้านเรียกร้องให้มีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองภายใต้ ประธานาธิบดีฮอสนี มูบารัคอันเป็นเผด็จการติดต่อกันมากว่า 30 ปี ต่อเหตุการณ์ดังกล่าวแม้จะยังไม่เกิดความเปลี่ยนแปลงขึ้นในขณะนี้แต่พอจะ วิเคราะห์ได้ในอนาคตก็คือ

ประการแรก ในกรณีที่ประธานาธิบดีมูบารัคมีการใช้กำลังเผชิญหน้ากับประชาชน ต่อให้มีชัยชนะรัฐบาลภายใต้ประธานาธิบดีมูบารัคก็คงไม่สามารถปกครองประเทศ ได้ต่อไปเพราะแรงต่อต้านจะขยายไปทุกจุด รัฐบาลไม่สามารถใช้อาวุธปิดกั้นการแสดงออกได้ตลอดไป เศรษฐกิจในสถานการณ์ดังกล่าวมีแนวโน้มย่ำแย่ลงนั่นหมายถึงอียิปต์จะกลายเป็น รัฐล้มเหลว (Failed State) เหมือนในกรณีอิรัก หรืออัฟกานิสถาน

ประการที่สอง มีความเป็นไปได้สูงที่ประธานาธิบดีมูบารัคต้องยอมถอยฉากลงจากตำแหน่งในเวลา อันสั้นเนื่องจากแรงกดดันจากประชาชนทั่วประเทศขยายวงมากขึ้น ในกรณีดังกล่าวจะทำให้เกิดการจัดตั้งรัฐบาลแห่งชาติเพื่อนำไปสู่การร่างรัฐ ธรรมนูญและเลือกตั้งทั่วไปอย่างบริสุทธิ์ยุติธรรม ซึ่งรัฐบาลที่เกิดขึ้นในภาวะดังกล่าวจะต้องเป็นรัฐบาลที่มีความเป็นมิตรและ ผูกพันกับสหรัฐอเมริกาลดลงอันเป็นผลมาจากกระแสประชาชนและถ้าเกิดรัฐบาลที่ หัวรุนแรงได้รับชัยชนะโดยเฉพาะจากกลุ่มภราดรอิสลาม (Islam Brotherhood) ที่เป็นกลุ่มที่เป็นปฏิปักษ์กับอิสราเอล ในกรณีดังกล่าวอียิปต์ก็จะมีลักษณะไม่ต่างจากอิหร่านและจะเป็นหอกข้างแคร่ ต่อสหรัฐอเมริกา อิสราเอลและสหภาพยุโรป นอกจากนั้นไม่ว่ารัฐบาลจัดตั้งขึ้นมาเป็นอย่างไรหากมีการยกเลิกสนธิสัญญา สันติภาพระหว่างอิสราเอลและอียิปต์ 1978 ที่ทำให้อดีตประธานาธิบดีอันวาร์ ซาดัตถูกฆ่าตาย ในภาพฉายดังกล่าวความตึงเครียดในตะวันออกกลางที่มีต่อความมั่นคงของอิสราเอล จะส่งผลกระทบและจะกระทบต่อเสถียรภาพและความมั่นคงทั้งทางด้านเศรษฐกิจและการ เมืองต่อสหรัฐอเมริกา สหภาพยุโรปและอาจกระทบต่อทั้งจีน รัสเซีย และประเทศอื่น ๆ  ส่วนหนึ่งเป็นผลจากความขัดแย้งระหว่างกลุ่มอิสลามหัวรุนแรงและอิสราเอลซึ่ง มีนัยยะต่อความอยู่รอดในฐานะรัฐชาติของอิสราเอลอาจจะเป็นต้นเหตุในกรณีกดดัน ให้สหรัฐอเมริกาต้องเข้ามาช่วยเหลืออันอาจนำไปสู่การเกิดสงครามจำกัดขอบเขต ได้ในอนาคต ยิ่งกว่านั้นตะวันออกกลางยังเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่เชื่อมต่อระหว่างมหาสมุทร แอตแลนติกและอินเดีย ระหว่างทะเลแดงและเมดิเตอร์เรเนียนซึ่งเกี่ยวกับการขนส่งโดยเฉพาะท่อน้ำมัน อียิปต์ถือเป็นประเทศสำคัญและพันธมิตรสำคัญต่อสหรัฐอเมริกาและประเทศตะวันตก นอกจากซาอุดิอาระเบีย เนื่องจากอียิปต์มีประชากรกว่า 80 ล้านคน ลองวาดภาพดูว่าในกรณีบุกอิรักถ้าไม่มีอียิปต์สหรัฐอเมริกาจะอยู่ในฐานะที่ทำ ได้ลำบากมากการเปลี่ยนแปลงในอิยิปต์ทางการเมืองมีนัยต่อเสถียรภาพความมั่นคง ของโลกตะวันตก

ประการที่สาม เหตุการณ์ในอียิปต์นั้นยังเป็นเชื้อที่แผ่ไปสู่ประเทศอื่น ๆ ความจริงนั้นเหตุการณ์ในอิยิปต์ก็ได้รับเชื้อจากตูนีเซีย หลังจากอียิปต์ก็แผ่ไปสู่ประเทศอื่น ๆ ในตะวันออกกลาง เยเมน จอร์แดน ซีเรีย และอีกหลายประเทศซึ่งตกเป็นเป้าของการจับตามองไม่ว่าจะเป็นบาเรน ลิเบีย กลุ่มประเทศเหล่านี้ส่วนใหญ่เป็นพันธมิตรกับสหรัฐอเมริกาและประเทศตะวันตก ที่เป็นตัวช่วยถ่วงดุลอำนาจกับกลุ่มประเทศอิสลามหัวรุนแรงและมีส่วนช่วยต้าน การก่อการร้าย เชื้อการแผ่ขยายของการเรียกร้องของประชาชนมีโอกาสที่จะเกิดขึ้นได้ไม่ยาก เย็นนักถ้าคำนึงว่าประเทศเหล่านี้มีองค์ประกอบของปัญหาหลายประการดังเช่น การกระจายรายได้ ความเป็นเผด็จการ การละเมิดสิทธิมนุษยชน และประกอบกับหนุ่มสาวอายุในวัย 30 ปีมีส่วนถึงร้อยละ 30 คนเหล่านี้ต้องการมีส่วนร่วมและเสรีภาพมากขึ้น เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอิยิปต์จึงมีส่วนส่งผลกระทบในระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาวซึ่งส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพของตะวันออกกลาง

สิ่ง ที่เกิดขึ้นในอียิปต์พอสรุปได้ก็คือผลกระทบระยะสั้น ระยะกลางและระยะยาวต่อภูมิรัฐศาสตร์ของโลกและตะวันออกกลาง แต่ผลกระทบในทางเศรษฐกิจนั้นยังจำกัดอยู่มากในระยะสั้นยกเว้นจะมีผลกระทบทาง จิตวิทยาอยู่บ้าง หรือยกเว้นกระทบต่อท่อน้ำมันที่เชื่อมระหว่างทะเลแดงและเมดิเตอร์เรเนี่ยน คือท่อ SUMED ถ้าหากมีการก่อวินาศกรรม (Sabotage) ซึ่งในขณะนี้รัฐบาลอียิปต์จึงส่งกองกำลังไปดูแล ดังนั้นถ้าไม่มีผลกระทบดังกล่าว ผลกระทบต่อเศรษฐกิจจะจำกัดวงในทางจิตวิทยาส่งผลต่อราคาน้ำมัน หุ้นและราคาทองคำ อย่างไรก็ตามผลกระทบต่อเศรษฐกิจระยะกลางและระยะยาวต้องพิจารณาหลังจากการ เปลี่ยนแปลงรัฐบาลต่อไป

โดยสรุปเหตุการณ์ในอียิปต์ไม่ส่งผล กระทบต่อเศรษฐกิจโลกและไทยแต่อย่างไรการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกและไทยจะเป็น ไปดังได้วิเคราะห์ไว้ก่อนหน้านี้ ราคาหุ้นของไทยในช่วงนี้มีการแกว่งตัวขึ้นลงอยู่ในกรอบขาลงชั่วคราวและมีการ เปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นในไตรมาศ 2 ส่วนเงินดอลล่าร์และเงินบาทนั้นเงินบาทจะอ่อนตัวอยู่ในกรอบ 31 บาท บวกลบ 20 สตางค์ในช่วงสั้นซึ่งยังมีแนวโน้มที่จะอ่อนตัวมากขึ้นแต่ในระยะกลางเงินบาท จะแข็งตัวขึ้นในระดับ 30 บาทซึ่งเป็นค่าเฉลี่ยของปีนี้และบางช่วงครึ่งปีหลังอาจแข็งค่าขึ้นเป็น 29 บาท ดังได้วิเคราะห์ไว้ก่อนหน้านี้ ส่วนราคายางพาราอยู่ในแนวโน้มขาขึ้นอย่างไรก็ตามเนื่องจากราคาขึ้นมาสูง อย่างต่อเนื่องเป็นเวลานานในอนาคตเดือนมีนาคมหรือไตรมาส 2 จะเกิดการผันผวนปรับตัวลงอย่างรุนแรงชั่วคราวก่อนจะมีแนวโน้มฟื้นตัวกลับมา อีกครั้งในช่วงสั้น








ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น