ความเป็นมาของประเทศแอฟริกาใต้

ประเทศแอฟริกาใต้ หรือ สาธารณรัฐแอฟริกาใต้ (Republic of South Africa) หรืออาจเรียกสั้น ๆ ว่า "แอฟริกาใต้" (ต่างจาก "แอฟริกาตอนใต้" ซึ่งเป็นภูมิภาคประกอบไปด้วยหลายประเทศ รวมถึงประเทศแอฟริกาใต้) เป็นประเทศอิสระที่อยู่ตอนปลายทางใต้สุดของทวีปแอฟริกา มีพรมแดนติดกับ ประเทศนามิเบีย ประเทศบอตสวานา ประเทศซิมบับเว ประเทศโมซัมบิก และ ประเทศสวาซิแลนด์ ส่วนประเทศเลโซโท (Lesotho) เป็นดินแดนที่ถูกล้อมรอบทุกด้านด้วยอาณาเขตของประเทศแอฟริกาใต้ รวมทั้งยังเป็นประเทศส่งออกเพชรละ ทองคำ

 ประเทศแอฟริกาใต้..........กว่าจะมาถึงวันนี้

  Bartolomeu Dias ชาวโปรตุเกสนำเรือจากยุโรปอ้อมปลายแหลมทวีปแอฟริกาเข้าไปในมหาสมุทรอินเดีย เป็นคนแรกเมื่อ ค.ศ. 1488 จากนั้นเลี้ยวเรือกลับ พายุนอกแหลมพัดเรือหายไปในอัตลันติกเกือบ 2 อาทิตย์

หลังจากรอดชีวิตมาได้อย่างใจหายใจคว่ำจึงตั้งชื่อบริเวณปลายแหลมแแถวนั้นว่า Cape of Storms ภายหลังกษัตริย์ John 2 แห่งโปรตุเกสทรงเปลี่ยนชื่อใหม่ให้ฟังน่ารักขึ้นว่า Cape of Good Hop

ดัชท์เป็น ชาติแรก ที่มาตั้งรกรากตรง The Cape (คือCape Town ปัจจุบัน และเรียกปลายแหลมในแผนที่ตนว่า Cape Horn ซึ่งนำมาจากชื่อเมือง Hoorn ที่อยู่ตอนเหนือของอัมสเตอร์ดัม) ต่อมามีคำเรียกพวกดัชท์ซึ่งตั้งรกรากที่ The Cape ว่า Boer (โบ-เออร์) แต่ปัจจุบันจะใช้คำเรียกพวกดัชท์ทั่วไปใน R.S.A. ว่า Afrikaans (แอ-ฟริ-คานส)คำว่า Afrikaans จึงหมายถึงฝรั่งที่มีเชื้อสายดัชท์ ไม่ใช่นิโกรแอฟริกัน

กองเรือสินค้าอังกฤษเติบโตไล่ดัชท์มาติดๆ เมื่อเห็น The Cape ของดัชท์ ก็อยากได้ไว้พักเรือเมื่อไปอินเดีย จึงเปิดสงครามแย่ง The Cape 2 ครั้ง   ชาวดัชท์แพ้ต่ออังกฤษจึงจำใจขาย The Cape ให้อังกฤษ 6 ล้านปอนด์

อังกฤษดีใจมาก จึงตั้ง The Cape เป็นอาณานิคมทันที และส่งคนเข้ามา 4,000 คน ซึ่งปะปนในที่ทำกินของพวก Boer(ชาวโบเออร์) ประกาศใช้กฎหมายอังกฤษเพื่อแสดงสิทธิ์เหนือพวก Boer

ต่อจากนั้นอังกฤษประกาศเลิกทาส ทำให้พวก Boer ที่ยังอยู่ใน Cape Colony ขาดแรงงานทำเกษตร จึงต้องอพยพออกไปจากพื้นที่ ที่ปกครองโดยกฎหมายอังกฤษ จึงขึ้นไปทางทิศเหนือไปสร้างเขตปกครองของพวกตนใหม่เข้าไปยึดที่พวก Zulu(ซูลู)

อังกฤษไม่เลิกรา ตามไปรังควาญพวก Boer ในพื้นที่ใหม่ต่อไปอีก โดยอ้างว่าต้องเข้าไปคุ้มครองคนของตนในบริเวณ Natal (เนเท่อ)ด้วย จึงตามไปยึด Natal ของ Boer อีก และเอาพื้นที่บริเวณ Durban(เดอร์บัน) มาทำไร่อ้อยและไร่กล้วย จากนั้นอังกฤษขนคนสิงหลจากกัลกัตตาและคนทมิฬจากมัทราส 152,000 คน มาเป็นแรงงาน ด้วยสัญญาการจ้าง 5 ปี แต่หลังจาก 5 ปี แล้วคนเหล่านั้นมากกว่าครึ่งไม่ยอมกลับอินเดีย

หลังจากที่อังกฤษเข้ายึดพื้นที่อื่นจาก Boer และพวก Zulu ได้หมดแล้ว จึงได้ตั้งพื้นที่นี้เป็น Union of South Africa จากนั้นได้ถอนตัวออกจากเครือจักรภพ  ต่อมารัฐบาลซึ่งปกครองโดยคนผิวขาวใช้นโยบายแบ่งแยกผิว กับคนพื้นเมือง ซึ่งมีการต่อต้านนองเลือดไม่เว้นวัน

หลัง ค.ศ. 1980 ประเทศต่างๆ ต่อต้านนโยบายแบ่งแยกผิว ถอนการลงทุนฯ ระงับความสัมพันธ์ทางการค้า  แม้แต่บริษัท Levi’s ของประเทศอเมริกายังไม่ส่งกางเกงยีนส์ไปขายให้ ฯลฯ  รัฐบาลฯจึงยอมแพ้และเปลี่ยนชื่อประเทศใหม่ว่า Republic of South African (R.S.A.)

ประเทศแอฟริกาใต้มีเขตปกครอง 9 จังหวัด Pretoria เป็นเมืองหลวง มีภูมิประเทศหลากหลาย  ตอนเหนือเป็นทุ่งสะวันนา ทางตะวันตกเฉียงใต้ฝนตกชุกเป็นเขตเกษตรกรรม ส่วนชายฝั่ง Cape Town มีกระแสน้ำอุ่นและน้ำเย็นพัดเอาปลาสารพัดชนิดมาให้กิน

ปัจจุบันนี้ประเทศแอฟริกาใต้ มีการจัดการเรื่องสัตว์ก้าวไปอีกขั้น คือมีการเพาะพันธุ์สัตว์ส่งขายยังสวนสัตว์ต่างๆ ทั่วโลก นอกจากนั้นยังจัดพื้นที่บางส่วนให้มีการล่าสัตว์ ซากสัตว์ที่นักล่าไม่เอาก็นำมาสตัฟขายให้นักท่อง เที่ยวซื้อกลับไปประดับฮวงจุ้ยที่บ้าน มีสารพัดชนิด ม้าลาย สิงโต อิมพาลา ฯลฯ ใ และ     ขณะนี้ประเทศแอฟริกาใต้ผลิตทองคำได้ประมาณปีละ 612,998 ตัน ผลิตเพชรมากอันดับ 5 ของโลก ผลิตอัญมณีรวม 10.2 ล้าน กะรัต (ประมาณ 10% ที่ผลิตในโลก) และยังส่งออกสินแร่ สิ่งทอ ไวน์ เนื้อสัตว์ ฯลฯ